belanegara – คณะกรรมการปราบปรามการทุจริต (KPK) ประเทศอินโดนีเซีย ได้เรียกสอบปากคำ นายอิลฮัม อัคบาร์ ฮาบิบี บุตรชายของอดีตประธานาธิบดีสุฮาร์โตคนที่ 3 ของอินโดนีเซีย ในฐานะพยานในคดีทุจริตโครงการจัดซื้อโฆษณาของธนาคารพัฒนาแห่งจังหวัดชวาตะวันตกและบันเตน (BJB) ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐบาลสูงถึง 222 พันล้านรูปีห์
การเรียกสอบครั้งนี้สร้างความสนใจอย่างมากต่อสาธารณชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวลือเกี่ยวกับการขายรถยนต์มรดกตกทอดจากอดีตประธานาธิบดีฮาบิบี ให้กับนายริดวัน คามิล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชวาตะวันตก แม้ว่านายอิลฮัมจะเคยขาดนัดสอบปากคำในครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เนื่องจากติดภารกิจอื่น แต่เขาก็ได้เดินทางมาให้การที่สำนักงานใหญ่ KPK ในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568

“ผมมาในฐานะพยานครับ พยานในคดี BJB เท่านั้นที่ผมรู้” นายอิลฮัม ฮาบิบี กล่าวกับนักข่าว ส่วนกรณีการขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มรดกตกทอดจากบิดาของเขา นายอิลฮัมกล่าวว่า ยังคงรอการตรวจสอบอยู่
ในคดีนี้ KPK ได้ตั้งข้อหาผู้ต้องหา 5 คน ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 ประกอบด้วย อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคาร BJB นายยุดดี เรนัลดี หัวหน้าฝ่ายเลขานุการบริษัทธนาคาร BJB นายวิดี ฮาร์โตโน และภาคเอกชนอีก 3 ราย ได้แก่ นายอิคิน อาซิคิน ดูลมาแนน นายซูเฮนดริก และนายโซฟาน จายา คุสุมา คดีนี้ถือเป็นคดีทุจริตที่มีมูลค่าความเสียหายสูงและสร้างความสนใจอย่างมากในแวดวงเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย การให้การของทายาทตระกูลฮาบิบีจึงเป็นประเด็นสำคัญที่สังคมจับตามองอย่างใกล้ชิด ความคืบหน้าของคดีนี้จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคการเงินและเศรษฐกิจของประเทศอย่างแน่นอน การสอบสวนของ KPK ยังคงดำเนินต่อไปและคาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้
บทความนี้เขียนขึ้นโดยนักข่าวเศรษฐกิจมืออาชีพ ข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ belanegara.co มุ่งมั่นที่จะนำเสนอข่าวสารที่ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลางให้กับผู้อ่านเสมอ