แปลและเรียบเรียงใหม่:
belanegara – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยว่ามีบริษัทไทยถึง 11 แห่งที่กำลังเตรียมตัวสำหรับการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 นี้ อย่างไรก็ตาม ตลท. ย้ำว่าเป้าหมายหลักไม่ใช่การเร่งรัดจำนวนบริษัทเข้าจดทะเบียน แต่เน้นไปที่ความพร้อมและคุณภาพของบริษัทที่จะเข้ามาเป็นหลักทรัพย์มากกว่า

นายสมชาย ไทยพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายพิจารณาบริษัทจดทะเบียนของ ตลท. กล่าวว่า บริษัทที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎระเบียบ มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
"ตลท. ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การเร่งรัดกระบวนการเข้าจดทะเบียน แต่ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมด้านคุณภาพของบริษัทด้วย" นายสมชายกล่าว
นายสมชายเน้นย้ำว่า มาตรการนี้มีความจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนทุกแห่งมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎระเบียบ มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
"และยังสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในตลาดทุนได้อีกด้วย" เขากล่าว
เขากล่าวเสริมว่า บริษัทที่พร้อมและมีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการทำ IPO จะสามารถเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้กับนักลงทุนชาวไทยได้
นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมของบริษัทสำหรับการทำ IPO แล้ว ตลท. ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุน
บริษัทที่ประสบความสำเร็จในการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ควรประสบความสำเร็จแค่ในช่วง IPO เท่านั้น แต่จะต้องสามารถรักษาผลการดำเนินงานและความโปร่งใสของข้อมูลได้ในระยะยาว
"ตลท. เน้นย้ำเสมอว่าบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการจดทะเบียน ไม่ควรทำ IPO ให้สำเร็จเท่านั้น แต่ต้องรักษาผลการดำเนินงาน ความสามารถในการดำเนินธุรกิจ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาวด้วย" นายสมชายกล่าว
ตลท. ระบุว่าจะให้คำปรึกษาและให้ความรู้แก่บริษัทที่ต้องการเข้าจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กระบวนการ IPO ทั้งหมดเป็นไปตามข้อกำหนด มาตรการนี้ดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทที่ต้องการเข้าจดทะเบียนทุกแห่งมีความพร้อมทั้งในด้านการกำกับดูแลกิจการและกลยุทธ์ทางธุรกิจ
"รวมถึงการกำกับดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนสามารถรักษาผลการดำเนินงาน เพิ่มความโปร่งใส และปฏิบัติตามภาระผูกพันในการเปิดเผยข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง" เขากล่าว