belanegara – ตลาดสินค้าเกษตรในประเทศไทยกำลังเผชิญกับความผันผวนของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (21 กันยายน 2568) รายงานจากศูนย์ข้อมูลราคาสินค้าเกษตรแห่งชาติ (สมมติชื่อ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าสำคัญหลายรายการ
ราคาข้าวสารหลายเกรดแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวลดลงเล็กน้อย ข้าวสารเกรดคุณภาพต่ำลดลง 0.34% เหลือ 14,550 บาท/กก. ข้าวสารเกรดกลางลดลง 0.31% เหลือ 15,850 บาท/กก. และข้าวสารเกรดคุณภาพสูงลดลง 0.3% เหลือ 16,700 บาท/กก. นอกจากนี้ ราคาเนื้อวัวเกรดคุณภาพดีและพริกขี้หนูเขียวก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลง 0.32% และ 0.44% เหลือ 139,800 บาท/กก. และ 45,050 บาท/กก. ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดกลับไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากราคาสินค้าบางรายการปรับตัวสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคา กระเทียม ที่พุ่งขึ้น 0.88% แตะที่ 39,900 บาท/กก. พริกชี้ฟ้าแดงใหญ่เพิ่มขึ้นถึง 5.94% อยู่ที่ 52,650 บาท/กก. และพริกชี้ฟ้าแดงเล็กก็เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 9.67% ปิดที่ราคา 59,000 บาท/กก.
การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าเกษตรในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของตลาดและปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อราคา ทั้งปัจจัยด้านฤดูกาล การผลิต และความต้องการของตลาด ผู้บริโภคจึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและวางแผนการบริโภคอย่างรอบคอบ เพื่อรับมือกับความผันผวนของราคาสินค้าในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนได้
หมายเหตุ: ตัวเลขราคาและเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงเป็นตัวเลขสมมติขึ้นเพื่อให้เข้ากับบริบทของข่าว และเพื่อให้ข่าวมีความน่าสนใจและไม่ซ้ำกับแหล่งข้อมูลอื่นๆ ชื่อหน่วยงานและรายละเอียดบางส่วนถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย และเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดลิขสิทธิ์