belanegara – บริษัท NS Solutions Corporation (NSSOL) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท PT NSSOL Systems Indonesia (NSIDN) ประกาศเข้าซื้อกิจการ บริษัท PT WCS Abyakta Nawasena (WCS Abysena) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศอินโดนีเซียอย่างสมบูรณ์แบบ 100% การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการปฏิวัติวงการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในอินโดนีเซียอย่างแท้จริง ด้วยการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในภูมิภาคและทั่วโลก
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลอินโดนีเซียที่มุ่งส่งเสริมการลงทุนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำระบบ ERP บนคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับภาคธุรกิจในการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอินโดนีเซียต้องการโซลูชั่นที่ครบวงจรและได้มาตรฐานสากล

“เราตระหนักดีว่าเพื่อรับมือกับความท้าทายของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลระดับชาติ เราจำเป็นต้องเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันผ่านการสร้างความร่วมมือระดับโลก การที่ WCS Abysena เข้าร่วมกับ NSSOL ไม่ใช่แค่เรื่องการเติบโตทางธุรกิจ แต่เป็นการเตรียมความพร้อมของเราในการสร้างมาตรฐานใหม่ในการให้บริการโซลูชั่นดิจิทัลที่ครบวงจร ปลอดภัย และปรับตัวได้” คุณ Gigih Prakoso กรรมการผู้จัดการของ WCS Abyakta Nawasena กล่าวในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568
คุณ Gigih ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลจาก IDC อินโดนีเซีย ปี 2567 ระบุว่ามีเพียง 32% ของบริษัทในอินโดนีเซียเท่านั้นที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่า 87% ของบริษัทจะตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลก็ตาม อุปสรรคที่สำคัญที่สุดคือการขาดการบูรณาการระบบและความพร้อมด้านความปลอดภัยของข้อมูล ในบริบทนี้ การร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกจึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการเร่งการนำเทโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ มากกว่าการเข้าซื้อกิจการทางธุรกิจ นี่คือก้าวสำคัญสู่การสร้างอนาคตดิจิทัลของอินโดนีเซียที่ครอบคลุม แข็งแกร่ง และได้มาตรฐานสากล
“การร่วมมือกับ NSSOL ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ไม่เพียงแต่ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ ในอินโดนีเซียสามารถปรับตัว แข่งขัน และพร้อมรับมือกับอนาคตได้ เราต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าบริษัทในประเทศ ด้วยความร่วมมือที่เหมาะสม สามารถสร้างผลกระทบในระดับโลกได้” คุณ Gigih กล่าวเสริม