Artikel:
belanegara – ค่าเงินบาทของไทยเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (22-26 กันยายน 2568) โดยปิดตลาดในวันศุกร์ด้วยการอ่อนค่าลงเล็กน้อย แม้ว่าข้อมูลจาก Bloomberg จะแสดงให้เห็นว่าบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย 0.07% ปิดที่ 16,738 รูเปียห์ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เมื่อพิจารณาในภาพรวมรายสัปดาห์แล้ว ค่าเงินรูเปียห์อ่อนค่าลงถึง 0.82% จากระดับ 16,601 รูเปียห์ในสัปดาห์ก่อนหน้า

ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ยังรายงานการอ่อนค่าของค่าเงินรูเปียห์ในอัตราอ้างอิง Jisdor โดยอ่อนค่าลง 1.19% ในหนึ่งสัปดาห์ จาก 16,578 เป็น 16,775 รูเปียห์ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
Ramdan Denny Prakoso ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายสื่อสารองค์กรของ BI เปิดเผยข้อมูลบ่งชี้เสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ โดยในวันพฤหัสบดี (25 กันยายน) ค่าเงินรูเปียห์ปิดที่ 16,735 รูเปียห์ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (SBN) อายุ 10 ปี สู่ระดับ 6.40% ในขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 98.55 และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (UST) อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 4.170%
ในเช้าวันศุกร์ (26 กันยายน) ค่าเงินรูเปียห์เปิดตลาดอ่อนค่าลงอีกครั้งที่ 16,750 รูเปียห์ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยผลตอบแทน SBN อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 6.43%
"ธนาคารกลางอินโดนีเซียยังคงเสริมสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์นโยบายแบบผสมผสานเพื่อสนับสนุนความยืดหยุ่นภายนอกของเศรษฐกิจอินโดนีเซีย" เขากล่าว
Ibrahim Assuaibi นักวิเคราะห์ตลาดเงินกล่าวว่า การอ่อนค่าของค่าเงินรูเปียห์ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ belanegara.co รายงาน
คำอธิบายเพิ่มเติม:
- Judul (หัวเรื่อง): พยายามใช้คำที่ดึงดูดความสนใจ เช่น "ทะลุ" (ทะลุ) และ "จับตา" (จับตา) เพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านคลิกเข้ามาอ่าน
- เนื้อหา: เน้นการแปลความหมายมากกว่าการแปลคำต่อคำ เพื่อให้ภาษาเป็นธรรมชาติและอ่านง่าย
- สำนวน: ใช้สำนวนภาษาไทยที่เข้าใจง่ายและเป็นที่นิยมในข่าวเศรษฐกิจ
- ความถูกต้อง: ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและตัวเลข
- การอ้างอิง: อ้างอิงแหล่งข่าวอย่างถูกต้อง (belanegara.co)
หวังว่านี่จะเป็นประโยชน์กับคุณ! หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม โปรดแจ้งให้เราทราบ