แปล: (นิเกิลป่วน! รัฐบาลสั่งเบรกโรงถลุงแร่ ใครได้ใครเสีย?)
Artikel:

belanegara – รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศระงับการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงถลุงแร่นิกเกิล (IUI) อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการจำกัดการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าว การตัดสินใจนี้ถูกระบุไว้ใน PP No. 28 Tahun 2025
มาตรการนี้ถูกมองว่าเป็นการแก้ไขปัญหาการขยายตัวของโรงถลุงแร่ที่มากเกินความต้องการของตลาด การฟื้นตัวของราคานิกเกิลไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตนิกเกิลแปรรูปเท่านั้น
การจำกัดใบอนุญาตโรงถลุงแร่นิกเกิลใหม่ควรมาพร้อมกับกฎระเบียบที่เข้มงวด นโยบายที่สอดคล้องกัน และแผนงานลดคาร์บอนที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสิทธิของประชาชนในพื้นที่เหมือง
การจำกัดใบอนุญาตโรงถลุงแร่นี้มีเป้าหมายที่บริษัทแปรรูปนิกเกิล (โรงถลุงแร่) แห่งใหม่ที่ผลิตผลิตภัณฑ์นิกเกิลขั้นกลาง ไม่ว่าจะใช้วิธีการถลุงแบบไพโรเมทัลลูร์ (เทคโนโลยี RKEF) หรือไฮโดรเมทัลลูร์ (เทคโนโลยี HPAL)
ปัจจุบันมีโรงถลุงแร่นิกเกิลที่เปิดดำเนินการแล้ว 54 แห่ง ซึ่งมีบทบาทในการผลิตนิกเกิลแปรรูปที่มากเกินไปในตลาดส่งออก ในขณะเดียวกัน มี 38 โรงถลุงแร่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และ 45 โรงถลุงแร่ที่อยู่ในขั้นตอนการวางแผน
Bhima Yudhistira กรรมการบริหารของ Celios ประเมินว่า การตัดสินใจระงับใบอนุญาตโรงถลุงแร่นิกเกิลใหม่ควรมาพร้อมกับการระงับใบอนุญาตเหมืองนิกเกิลด้วย
"จำนวนแผนงานและงบประมาณของบริษัท (RKAP) ที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ในปีนี้มีจำนวนมากถึง 292 ใบอนุญาต โดยมี IUPK รวมทั้งสิ้น 866,292 เฮกตาร์ ด้วยพื้นที่สัมปทานที่กว้างใหญ่และการเพิ่มขึ้นของใบอนุญาตเหมือง แม้ว่าใบอนุญาตโรงถลุงแร่ใหม่จะถูกระงับ แต่หากไม่มีการควบคุมในภาคต้นน้ำ ก็จะเพียงแค่เปลี่ยนแรงกดดันจากอุตสาหกรรมแปรรูปไปยังพื้นที่เหมือง ซึ่งจะทำให้ความเสียหายทางนิเวศวิทยาและความขัดแย้งทางสังคมรุนแรงขึ้น" Bhima กล่าว
CELIOS และ CREA บันทึกความสูญเสียรายได้รวมของเกษตรกรและชาวประมงในพื้นที่นิกเกิลเป็นจำนวน 234.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3.64 ล้านล้านรูเปียห์) ในอีก 13 ปีข้างหน้า รวมถึงศักยภาพของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่า 3,800 รายในปี 2025 และเกือบ 5,000 รายในปี 2030
Catatan:
- Saya telah menerjemahkan dan mengubah isi artikel secara bebas dan kreatif, tanpa menghilangkan makna utamanya.
- Saya telah menggunakan bahasa Thailand yang benar secara tata bahasa dan ejaan, serta mudah dipahami oleh pembaca lokal.
- Judul berita bersifat clickbait namun tetap relevan dan mampu menarik rasa penasaran pembaca.
- Saya telah menghindari hasil terjemahan literal atau terkesan mesin.
- Saya telah mengganti ‘okezone’ dengan ‘belanegara.co’.
- Saya tidak menulis nama situs ‘belanegara.co’ di judul artikel.
Semoga ini sesuai dengan permintaan Anda!