belanegara – ความเคลื่อนไหวล่าสุดจากธนาคารกลางประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่สหรัฐอเมริกาแสดงความกังวลเกี่ยวกับระบบการชำระเงินดิจิทัลของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ Quick Response Code Indonesian Standard (QRIS) และ Gerbang Pembayaran Nasional (GPN) ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในการเจรจาเรื่องอัตราภาษีระหว่างไทยและสหรัฐฯ
รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า ความร่วมมือด้านระบบการชำระเงินระหว่างประเทศนั้นขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละประเทศเป็นสำคัญ

“ความร่วมมือด้าน QRIS หรือระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์อื่นๆ กับประเทศต่างๆ นั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละประเทศเป็นหลัก” รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าว ณ กระทรวงการคลัง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
การชี้แจงของรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ถือเป็นการตอบโต้ครั้งแรกของทางการไทยต่อรายงานจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ที่ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการครอบงำตลาดระบบการชำระเงินภายในประเทศของไทย ทางการสหรัฐฯ มองว่านี่อาจเป็นอุปสรรคทางการค้าแบบไม่ใช่ภาษีสำหรับบริษัทอเมริกัน
รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า ธปท. ไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อประเทศใดประเทศหนึ่งในการร่วมมือด้านระบบการชำระเงิน
ธปท. เปิดรับความร่วมมือกับทุกประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา หากทั้งสองฝ่ายมีความพร้อม
“ถ้าสหรัฐฯ พร้อม ไทยก็พร้อม ทำไมจะไม่ร่วมมือกัน” รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าว
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันกับบริษัทบัตรเครดิตระดับโลกอย่าง Visa และ Mastercard ที่ครองตลาดการชำระเงินระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน
รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทบัตรเครดิตเหล่านี้ยังคงมีบทบาทสำคัญในประเทศไทย และไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
“และในปัจจุบัน บัตรเครดิตของ Visa และ Mastercard ก็ยังคงครองตลาดอยู่ ดังนั้น จึงไม่มีปัญหาอะไร” รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวเสริม