belanegara – กระทรวงประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (KKP) ของอินโดนีเซีย ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายร้ายแรงที่กำลังคุกคามเศรษฐกิจของเกาะราชามาปัต ในจังหวัดปาปัวตะวันตก จากการทำเหมืองนิกเกิล ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่งอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาตะกอนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อัหมัด อาริส ผู้อำนวยการฝ่ายชายฝั่งและหมู่เกาะเล็กๆ กรมการจัดการทางทะเล KKP ได้ให้สัมภาษณ์กับ belanegara.co ณ สำนักงาน KKP กรุงจาการ์ตา เมื่อวันพุธที่ 11 มิถุนายน 2568 ว่า "ผลกระทบที่สำคัญคือการเพิ่มขึ้นของตะกอน เมื่อฝนตก ตะกอนเหล่านี้จะไหลลงสู่ทะเลไปปิดทับปะการังและหญ้าทะเล ทำลายระบบนิเวศชายฝั่งอย่างร้ายแรง"

การทำลายระบบนิเวศชายฝั่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจชุมชน เนื่องจากพื้นที่ชายฝั่งเป็นแหล่งวางไข่ของปลาและเป็นแหล่งทำมาหากินสำคัญ รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับราชามาปัต "เพราะที่นั่นมีปะการัง หญ้าทะเล และปลาต่างๆ มากมาย" อาริสกล่าวเสริม
ทีมงานจากกรมกำกับดูแลทรัพยากรทางทะเลและประมง KKP ได้ลงพื้นที่สำรวจในราชามาปัต เพื่อประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม อาริสยอมรับว่า การประเมินผลกระทบจากการทำเหมืองนั้นต้องใช้เวลา และอาจไม่สามารถเห็นผลกระทบได้อย่างชัดเจนในสภาพอากาศที่แจ่มใส "การจะเห็นผลกระทบนั้นต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศดี ไม่มีคลื่น ไม่มีฝน ผลกระทบจะยังไม่ปรากฏชัด เราจะเห็นผลกระทบได้ชัดเจนก็ต่อเมื่อฝนตก และตะกอนไหลลงสู่ทะเล แล้วกระแสน้ำพัดพาไป" อาริสอธิบาย
การทำเหมืองนิกเกิลในราชามาปัตจึงเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่ค่อยๆ ทะยอยทำลายเศรษฐกิจและระบบนิเวศ การเฝ้าระวังและการดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพื่ออนาคตของราชามาปัตและชุมชนที่อาศัยอยู่ นี่จึงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดต่อไป