belanegara – ข่าวช็อกวงการลงทุน! กลุ่มบริษัท LG ประกาศถอนตัวจากโครงการยักษ์ใหญ่ในอินโดนีเซีย มูลค่ากว่า 7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 260,000 ล้านบาท) ซึ่งเป็นโครงการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ร่วมมือกับรัฐบาลอินโดนีเซียและบริษัทของรัฐ สร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโครงการนี้ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหา วัตถุดิบ การผลิตสารตั้งต้น วัสดุแคโทด ไปจนถึงการผลิตเซลล์แบตเตอรี่
เหตุผลที่ LG ตัดสินใจถอนตัวจากโครงการมหาศาลนี้ ทางผู้บริหารของ LG Energy Solution ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Yonhap News Agency โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า “หลังจากพิจารณาถึงสภาพตลาดและสภาพแวดล้อมการลงทุนแล้ว เราจึงตัดสินใจถอนตัวจากโครงการนี้” คำแถลงที่คลุมเครือ ทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริง

อย่างไรก็ตาม LG ยืนยันว่าจะยังคงดำเนินธุรกิจอื่นๆ ในอินโดนีเซียต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ร่วมกับ Hyundai Motor Group ซึ่งเป็นโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนสูงเช่นกัน
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย ได้ออกมาชี้แจงว่า โครงการโดยรวมยังคงดำเนินต่อไป เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนพันธมิตรในการลงทุน โดย LG จะถอนตัวจาก JV 1, 2 และ 3 และมีบริษัทจากจีน คือ Huayou เข้ามาแทนที่ร่วมกับบริษัทของรัฐบาลอินโดนีเซีย
“โดยหลักการแล้ว การก่อสร้างโครงการใหญ่ชุดนี้ยังคงดำเนินต่อไปตามแผนเดิม โครงสร้างพื้นฐานและแผนการผลิตยังคงเป็นไปตามแผนงานเริ่มต้น การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเฉพาะในระดับนักลงทุนเท่านั้น” นายบาห์ลิลกล่าว
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนและการแปรรูป นายโรซาน เปอร์กาสา โรสลานี ยืนยันว่า LG Energy Solution ยังคงลงทุนในอินโดนีเซีย และได้ลงทุนในโครงการร่วมทุนอื่นๆ แล้ว มูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 37,000 ล้านบาท)
การถอนตัวของ LG ครั้งนี้ สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน แต่ก็เป็นโอกาสสำหรับบริษัทอื่นๆ ที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในอินโดนีเซีย ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้จึงนับเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักลงทุน เกี่ยวกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในตลาดโลก และความสำคัญของการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน