belanegara – ธนาคารแมนดิริ (Bank Mandiri) หรือ PT Bank Mandiri (Persero) Tbk (BMRI) ประกาศผลประกอบการที่น่าทึ่งด้วยกำไรสุทธิรวมสูงถึง 13.2 ล้านล้านรูเปียห์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 นับเป็นการเติบโตถึง 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการบริหารจัดการด้านต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคปัจจุบัน
ด้านอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity หรือ ROE) ธนาคารแมนดิริยังคงรักษาความแข็งแกร่งไว้ได้อย่างน่าชื่นชม โดยอยู่ที่ระดับ 20.8% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรและการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพสูง

นายดาร์มาวัน จุนไอดี (Darmawan Junaidi) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารแมนดิริ กล่าวว่า ธนาคารจะเดินหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการเร่งขยายธุรกิจลูกค้าองค์กร (Wholesale) และเสริมสร้างระบบนิเวศธุรกิจค้าปลีก (Retail) ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวดและรอบคอบ
"ด้วยการมุ่งเน้นการเพิ่มทุนสำรองที่มีต้นทุนต่ำจากธุรกรรมต่างๆ และการให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจหลัก เรามั่นใจว่าจะสามารถควบคุมต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการขยายธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน" นายดาร์มาวันกล่าวในการแถลงผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2568 ณ กรุงจาการ์ตา เมื่อวันอังคารที่ 29 เมษายน 2568
นอกจากนี้ นายดาร์มาวันยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ และการมีส่วนร่วมในโครงการของรัฐบาล ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมและยั่งยืนต่อไป นับเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคตของธนาคารแมนดิริในตลาดการเงินของอินโดนีเซีย