belanegara – นายซาเลห์ ฮูซิน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งชาติ (Kadin) ฝ่ายอุตสาหกรรม ได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมยาสูบของประเทศไทย โดยระบุว่านโยบายบรรจุภัณฑ์เรียบง่ายอาจกลายเป็นช่องโหว่ให้ผู้ผลิตบุหรี่เถื่อนขยายตลาดได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมือนกันทำให้ยากที่จะแยกแยะระหว่างบุหรี่ที่ถูกกฎหมายและบุหรี่เถื่อน
นอกจากนี้ ผู้บริโภคเองก็อาจจะไม่สามารถแยกแยะแบรนด์ที่ตนเองคุ้นเคยได้ ทำให้บุหรี่ลอกเลียนแบบแพร่หลายมากขึ้น “ผู้ผลิตบุหรี่เถื่อนสามารถขายสินค้าได้อย่างง่ายดายและคุกคามการดำรงอยู่ของผู้ผลิตบุหรี่ที่ถูกกฎหมาย ทั้งที่อุตสาหกรรมยาสูบของอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนรายได้ภาษีที่สำคัญของประเทศ ในปี 2568 อุตสาหกรรมยาสูบได้สร้างรายได้จากภาษีสรรพสามิตสูงถึง 216.9 ล้านล้านรูปี” นายซาเลห์กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568

นายซาเลห์ยังได้เน้นย้ำว่า ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การควบคุมสินค้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดอีกด้วย บุหรี่เถื่อนที่หลีกเลี่ยงภาษีและอากรต่างๆ ย่อมมีราคาถูกกว่าบุหรี่ที่ถูกกฎหมายอย่างเห็นได้ชัด ในภาวะเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าราคาถูกมากขึ้น (downtrading) สถานการณ์นี้จะยิ่งเร่งให้ส่วนแบ่งการตลาดไปสู่บุหรี่เถื่อนมากขึ้น จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และจำเป็นต้องมีมาตรการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องรายได้ของประเทศและอุตสาหกรรมยาสูบที่ถูกกฎหมาย รวมถึงการคุ้มครองผู้บริโภคจากบุหรี่เถื่อนที่มีคุณภาพต่ำและอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้