belanegara – กระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย (ESDM) นำโดยรัฐมนตรีบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย ได้ออกมาขอร้องบริษัทเชลล์อย่างเป็นทางการ ให้ระงับการปลดพนักงานสถานีบริการน้ำมันเชลล์ หลังจากเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงในหลายพื้นที่ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2568
"ผมได้ขอร้องทางเชลล์แล้วว่าอย่าได้มีการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม เราต้องการให้ทุกอย่างราบรื่น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเข้าใจว่าการบริหารประเทศนั้นมีกฎเกณฑ์อยู่" รัฐมนตรีบาห์ลิลกล่าว ณ กรุงจาการ์ตา เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568

แม้ว่าสถานการณ์จะตึงเครียด แต่รัฐมนตรีบาห์ลิลแสดงความเชื่อมั่นว่า บริษัทเอกชนอย่างเชลล์จะไม่ปลดพนักงาน
"ผมเชื่อว่าพวกเขาก็มีจิตใจที่ดีเช่นกัน" เขากล่าวเสริม
นอกจากนี้ รัฐมนตรีบาห์ลิลยังได้เรียกร้องให้บริษัท Pertamina ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลอินโดนีเซีย ปรับปรุงคุณภาพการบริการให้มีความสามารถในการแข่งขันกับบริษัทเอกชน
"ผมได้ขอร้องคุณไซมอน (กรรมการผู้จัดการ Pertamina) ให้ปรับปรุงการบริการ ยกระดับคุณภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ เพื่อให้ Pertamina สามารถแข่งขันกับบริษัทเอกชนอื่นๆ ได้อย่างแท้จริง" รัฐมนตรีบาห์ลิลกล่าว
ก่อนหน้านี้ อิงกริด ซีบูเรียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการฝ่าย Mobility ของเชลล์ อินโดนีเซีย ได้แถลงว่า บริษัทได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินงานในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ เนื่องจากประสบปัญหาในการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเบนซินให้เพียงพอต่อความต้องการ
"เราได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินงานในเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันเชลล์ ในช่วงที่ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเบนซินไม่เพียงพอ" อิงกริดกล่าว
การปรับเปลี่ยนการดำเนินงานดังกล่าวรวมถึงการปรับเวลาทำงาน การปรับจำนวนวันทำงาน และการให้พนักงานบางส่วนหยุดงานชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการที่เกิดขึ้นจากการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเบนซินนั่นเอง เหตุการณ์นี้จึงสร้างความกังวลอย่างมากต่ออนาคตของพนักงานสถานีบริการน้ำมันเชลล์ และเป็นประเด็นที่รัฐบาลอินโดนีเซียต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ