belanegara – ราคาสินค้าในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกันอย่างกว้างขวางคือค่าใช้จอดรถที่แพงเกินควรและการเรียกรับเงินใต้โต๊ะ (การเรียกรับผลประโยชน์) ดร.โจโก้ เสฏียะวารโน อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเอกา และรองประธานฝ่ายพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพชุมชน สมาคมขนส่งแห่งประเทศไทย (MTI) ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้
- ค่าจอดรถที่แพงเวอร์

ดร.โจโก้ ได้วิเคราะห์ถึงปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะค่าจอดรถที่ท่าเรือแหลมฉบังที่สูงถึง 17,500 บาทต่อครั้ง เป็นภาระหนักที่คนขับรถบรรทุกต้องแบกรับ และเป็นค่าใช้จ่ายที่พวกเขาต้องจ่ายเองทั้งหมด
ดร.โจโก้ มองว่า การบริหารจัดการพื้นที่จอดรถควรเป็นภารกิจของภาครัฐ ค่าใช้จ่ายในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มต้นทุนทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีวัตถุประสงค์และประโยชน์อย่างไร พื้นที่สาธารณะไม่ควรเป็นแหล่งสร้างรายได้ แต่ควรมีกฎระเบียบที่ชัดเจน
“หากธุรกิจในพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ให้บริการสาธารณะ เช่น ท่าเรือ ทางด่วน ฯลฯ นโยบายควรเน้นการกู้คืนต้นทุน (cost recovery) ไม่ใช่การแสวงหาผลกำไร” ดร.โจโก้ กล่าวเสริม
การเรียกรับเงินใต้โต๊ะและค่าจอดรถที่สูงเกินจริง ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งและราคาสินค้า ทำให้สินค้ามีราคาแพงขึ้น เป็นภาระต่อผู้บริโภค ภาครัฐควรเร่งแก้ไขปัญหานี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน การตรวจสอบและควบคุมการเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ ในพื้นที่สาธารณะอย่างเข้มงวด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการและประชาชน