belanegara – ข่าวดีสำหรับชาวไทย! ปริมาณข้าวสารสำรองของรัฐบาลไทยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 57 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งองค์การคลังสินค้า (บ.ก.ส.) โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ปัจจุบัน บ.ก.ส. มีข้าวสารสำรองในคลังมากกว่า 3,502,895 ตัน นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่สะท้อนถึงความมั่นคงทางด้านอาหารของประเทศและประสิทธิภาพของนโยบายรัฐบาลที่เข้าถึงกลุ่มเกษตรกรได้อย่างตรงจุด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คุณอนดี อัมรัน สุไลมาน กล่าวว่า "นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 57 ปีที่ปริมาณข้าวสารสำรองของรัฐบาลทะลุ 3.5 ล้านตัน โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม" ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นเครื่องหมายสำคัญของความมั่นคงทางอาหารของประเทศไทย และเป็นผลมาจากความร่วมมืออย่างแข็งขันของเกษตรกรไทย รวมถึงนโยบายที่ถูกต้องแม่นยำของรัฐบาล

ไม่เพียงแต่ปริมาณข้าวสารสำรองจะทำสถิติสูงสุดเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย จากปริมาณข้าวสารสำรองเพียง 1.7 ล้านตันในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 3.5 ล้านตันภายในวันที่ 4 พฤษภาคม หรือเพิ่มขึ้นถึง 1.8 ล้านตันภายในเวลาเพียง 4 เดือน โดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าข้าวสารแม้แต่น้อย
ข้อมูลจาก บ.ก.ส. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 แสดงให้เห็นว่า ปริมาณข้าวสารสำรองในปีนี้สูงกว่าสถิติเดิมในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2540 ซึ่งมีปริมาณอยู่ที่ 3,029,049 ตัน นับเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลในช่วงเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ การรับซื้อข้าวสารของ บ.ก.ส. ยังมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนเมษายนเพียงเดือนเดียว บ.ก.ส. รับซื้อข้าวสารได้ถึง 1.06 ล้านตัน ทำให้ปริมาณข้าวสารที่รับซื้อตั้งแต่เดือนมกราคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม รวมแล้วมากกว่า 1.8 ล้านตัน ทั้งหมดเป็นข้าวสารจากเกษตรกรไทย โดยไม่มีการนำเข้าข้าวสารขนาดกลางเลยในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปริมาณการรับซื้อข้าวสารในครั้งนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยการรับซื้อประจำปีของ บ.ก.ส. ในรอบ 57 ปี ส่งผลให้ บ.ก.ส. ต้องเช่าคลังสินค้าเพิ่มเติมที่มีความจุ 1.1 ล้านตัน เพื่อรองรับปริมาณข้าวสารที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก นับเป็นข่าวดีที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผลผลิตข้าวไทยและความมั่นคงทางอาหารของประเทศในอนาคต