Artikel:
belanegara – หนี้สินของรัฐบาลกลางอินโดนีเซีย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 (2025) อยู่ที่ 9,138.05 ล้านล้านรูเปียห์ ลดลงเล็กน้อยจากเดือนพฤษภาคมที่ 9,177.48 ล้านล้านรูเปียห์ แม้ตัวเลขจะสูง แต่การลดลงนี้ช่วยรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยและปานกลาง

นายซูมินโต ผู้อำนวยการใหญ่ด้านการจัดการทางการเงินและความเสี่ยง กระทรวงการคลังอินโดนีเซีย กล่าวว่า ตัวเลขหนี้สินดังกล่าวคิดเป็น 39.86% ของ GDP "ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 สัดส่วนหนี้สินต่อ GDP อยู่ที่ 39.86% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับหลายประเทศ" เขากล่าวในการประชุมสื่อมวลชนเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐปี 2569 (2026) ที่เมืองโบกอร์ จังหวัดชวาตะวันตก เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2568 (2025)
นายซูมินโต ย้ำว่า สัดส่วนหนี้สินต่อ GDP นี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย ต่ำกว่าขีดจำกัดสูงสุดที่ 60% ของ GDP ตามที่กฎหมายกำหนด "เราบริหารจัดการหนี้สินอย่างระมัดระวัง วัดผลได้ และอยู่ในขีดความสามารถของเรา" เขากล่าว
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน อินโดนีเซียมีสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ที่ต่ำกว่ามาเลเซีย (61.9%), ฟิลิปปินส์ (62%), ไทย (62.8%) และอินเดีย (84.3%) ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าอินโดนีเซียยังคงรักษาวินัยทางการคลังได้ดี แม้จะมีหนี้สินจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก belanegara.co ชี้ว่า แม้สัดส่วนหนี้สินต่อ GDP จะยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ รัฐบาลก็ควรให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเงินกู้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ในระยะยาว การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และลดการพึ่งพาหนี้สินในอนาคต