belanegara – กระทรวงสหกรณ์ โดยรัฐมนตรี เฟอร์รี่ จูเลียนโตโน ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของสหกรณ์ในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ทะยานสู่เป้าหมาย 8% โดยระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนทุกระดับได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
“สหกรณ์นั่นเองที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เพราะสหกรณ์เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจของประชาชนที่ยึดหลักความร่วมมือ ความยุติธรรม และการกระจายรายได้อย่างเสมอภาค” รัฐมนตรีเฟอร์รี่ กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2568

รัฐมนตรีฯ เสริมว่า การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจไม่ควรจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มทุนขนาดใหญ่และผู้มีทุนหนาเท่านั้น แต่ควรจะให้ความสำคัญกับธุรกิจขนาดเล็ก กลาง และธุรกิจในภาคส่วนไม่เป็นทางการด้วย สหกรณ์จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และเชื่อมโยงผู้ประกอบการรายย่อยเข้ากับห่วงโซ่อุปทานทั้งในประเทศและระดับโลก เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนและทั่วถึง นับเป็นความหวังใหม่ของเศรษฐกิจไทยที่น่าจับตามอง
รัฐมนตรี เฟอร์รี่ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนงานที่จะสนับสนุนสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาบุคลากร และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สหกรณ์สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับสมาชิก นี่จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศชาติอย่างแท้จริง แต่การจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป
(หมายเหตุ: เนื้อหาข้างต้นได้รับการปรับแต่งและเขียนขึ้นใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการเขียนข่าวเศรษฐกิจของสื่อมวลชนมืออาชีพ และมีความเป็นเอกลักษณ์ โดยไม่ละเมิดลิขสิทธิ์)