belanegara – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (BI Rate) ไว้ที่ระดับ 5.75% สร้างความฮือฮาให้กับตลาดการเงิน หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 22-23 เมษายน 2568 การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจไทย และเป็นการวางแผนเชิงรุกเพื่อรับมือกับความท้าทายในอนาคต
ผู้ว่าการธปท. นายเพอร์รี วาร์จิโย กล่าวว่า การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมนั้น เป็นผลมาจากการวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจในประเทศ สภาพคล่องทางการเงิน และระบบการชำระเงินอย่างรอบด้าน โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

“การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 และ 23 เมษายน 2568 ได้มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.75%” นายเพอร์รีกล่าวในการแถลงข่าวผลการประชุม กนง. ณ กรุงจาการ์ตา เมื่อวันพุธที่ 23 เมษายน 2568
นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (Deposit Facility) ยังคงอยู่ที่ 5% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (Lending Facility) อยู่ที่ 6.5% การดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้คงที่ และรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูปีต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
“การตัดสินใจครั้งนี้สอดคล้องกับความพยายามในการรักษาอัตราเงินเฟ้อให้คงอยู่ในกรอบเป้าหมายสำหรับปี 2568 และ 2569” นายเพอร์รีกล่าวเสริม
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ 1.65% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (Month-to-Month: mtm) และ 1.03% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Year-on-Year: yoy) ธปท. มั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 2.5 ± 1% สำหรับปี 2568 และ 2569 โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ 0.24% (mtm) และ 2.48% (yoy) ซึ่งถือว่ามีความเสถียรเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
(Feby Novalius)